วัสดุและการใช้งานท่อลูกฟูก

ท่อลูกฟูกจะแตกต่างกันไปตามวัสดุและการใช้งาน โดยทั่วไปจะเป็นพลาสติกและโลหะ:

• ท่อลูกฟูก PP (ท่อกระดูกงู): วัสดุโพลีโพรพิลีน（Polypropylene）

  มีความยืดหยุ่นและเหนียว มีสารหน่วงไฟ และเป็นฉนวน มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในชุดสายไฟรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชุดสายไฟกลางแจ้งเพื่อป้องกันสายไฟและสายเคเบิลจากการสึกหรอภายนอก นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการจัดการสายเคเบิลเมื่อมีชุดสายไฟจำนวนมากอีกด้วย

  หากใช้ในการตกแต่งภายในรถยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์โดยทั่วไปกำหนดให้ท่อลูกฟูกต้องได้รับการรับรอง FMVSS302 เพื่อให้แน่ใจว่าท่อลูกฟูก PP มีฤทธิ์หน่วงการติดไฟ

  นอกจากการควบคุมการปฏิบัติตามข้อกำหนดของท่อลูกฟูก PP (ท่อกระดูกงู) ที่สอดคล้องตามมาตรฐาน RoHS, REACH, FMVSS302 และการรับรองอื่นๆ แล้ว ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นยังมีข้อกำหนดสำหรับการทนความร้อน ทนน้ำมัน ทนความเย็น อัตราการยืดตัว อัตราการเสียรูป เป็นต้น

• ท่อลูกฟูก PA (ท่อกระดูกงู): วัสดุไนลอน 6（Polyamide）

  มีความยืดหยุ่นดี มีความแข็งสูงกว่าท่อลูกฟูก PP (ท่อกระดูกงู) ผิวมัน ทนต่อแรงกระแทก ไม่เสียรูปหรือแตกหักง่าย ทนต่อการสึกหรอ มีสารหน่วงไฟ ทนน้ำมัน ทนกรดและด่าง มีคุณสมบัติคืนตัวได้ดี มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในชุดสายไฟรถยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์อัตโนมัติ มอเตอร์ไฟฟ้า และอื่นๆ เพื่อปกป้องสายไฟจากการสึกหรอและฉนวนภายนอก

  หากใช้ในระบบอัตโนมัติระดับสูง บุชชิ่งจะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน UL1696 ใบรับรอง Safety Mechanical Protection Tubing (MPT)

  อ่านเพิ่มเติม: ท่อไนลอนที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน UL ใช้ในโรงงานจำหน่ายอุปกรณ์ควบคุมอัตโนมัติ

  

• ท่อลูกฟูก HDPE หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าท่อ CD: วัสดุโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง（High-density polyethylene）

  เนื่องจากมีต้นทุนที่ต่ำกว่าจึงมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในการป้องกันสายเคเบิลในการก่อสร้าง การตกแต่ง ฯลฯ เมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุ PP และ PA จะมีความนุ่มและมีมุมโค้งงอที่ใหญ่กว่า มีข้อจำกัดด้านพื้นที่น้อยและมีน้ำหนักเบากว่า สามารถใช้สำหรับเดินสายไฟในท่อและเพดานแบบซ่อน

  อย่างไรก็ตาม ความต้านทานต่ออุณหภูมิในระยะยาวต่ำกว่าชนิด PP และ PA และไม่มีสารหน่วงไฟจึงไม่เหมาะกับการใช้งานในผลิตภัณฑ์ยานยนต์ อุตสาหกรรม และอิเล็กทรอนิกส์

• ท่อลูกฟูกโลหะชุบสังกะสี: วัสดุเหล็กกัลวาไนซ์（Galvanized Steel）

  มีความนุ่มและทนทานต่อการโค้งงอ มีการตกแต่งภายในที่เรียบลื่นซึ่งทำให้ร้อยสายไฟได้ง่ายขึ้น และทนทานต่ออุณหภูมิสูง การกัดกร่อน และแรงกดด้านข้าง มันถูกใช้ในการป้องกันสายไฟและสายเคเบิลในสภาพแวดล้อมทั้งในร่มและกลางแจ้ง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์อัตโนมัติ เครื่องจักรเครื่องมือกล อุปกรณ์วิศวกรรม อุปกรณ์การบินและรางรถไฟ เรือ อุตสาหกรรมเคมี การสื่อสารโทรคมนาคม เป็นต้น

  

  หากต้องการกันรั่วซึมก็มีท่อโลหะลูกฟูกกันน้ำด้วยข้อแตกต่าง คือ ด้านนอกของชนิดกันน้ำจะหุ้มด้วยชั้น PVC ของเหลวและก๊าซจึงไม่สามารถทะลุผ่านได้

วิธีการเลือกสเปกท่อลูกฟูก（ท่อกระดูกงู）?

1. วัสดุท่อลูกฟูก (ท่อกระดูกงูร้อยสายไฟ)

   การใช้งานด้านสิ่งแวดล้อมเป็นตัวกำหนดเงื่อนไขวัสดุ หากพิจารณาถึงความต้านทานแรงดันแนะนำให้ใช้ท่อลูกฟูกไนลอน PA หากจำเป็นต้องมีการป้องกัน EMI (สัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า) ก็สามารถใช้ท่อลูกฟูกโลหะได้ แต่หากพิจารณาด้านต้นทุนสามารถเลือกท่อลูกฟูก PP (ท่อกระดูกงูร้อยสายไฟ) ได้

2. ขนาดท่อลูกฟูก (ท่อกระดูกงูร้อยสายไฟ)

   ท่อลูกฟูก PP (ท่อกระดูกงูร้อยสายไฟ) AΦ ในรูปด้านบนคือเส้นผ่านศูนย์กลางภายในท่อลูกฟูกซึ่งสอดคล้องกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกสายเคเบิลที่จะหุ้ม ตัวอย่างเช่น กลุ่มลวดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก 3Φ สามารถใช้ท่อลูกฟูกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 5Φ ได้

   จากภาพข้างต้น BΦ หมายถึง เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกท่อลูกฟูกซึ่งใช้เพื่อยืนยันว่าจะเกิดการรบกวนกลไกหรือไม่เมื่อประกอบเข้ากับข้อต่อท่อลูกฟูกจะต้องคำนึงว่าเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกตรงตามข้อกำหนดหรือไม่

   นอกจากนี้ชุดสายเคเบิลในรถยนต์ส่วนใหญ่มีความยาวมาก ตีเกลียวได้ยากหรือมีการประกอบขั้วต่อหรือหัวเสียบไว้แล้ว เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของขั้วต่อจึงใหญ่เกินไปและไม่สามารถสอดเข้าไปในท่อลูกฟูกได้

   เมื่อพบเจอสถานการณ์นี้ท่านสามารถเลือกท่อลูกฟูกแบบผ่าหรือแบบแยกส่วนได้ สามารถบรรจุเส้นที่ตั้งไว้ในท่อลูกฟูก (ท่อกระดูกงูร้อยสายไฟ) ได้โดยตรงซึ่งจะช่วยลดปัญหาการการ้อยสายไฟที่ยุ่งยากได้

   วิธีที่ดีที่สุด คือ การขอรับตัวอย่างฟรีจากแผนกขายของ Good Gi สามารถลองสวมและตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถใช้งานได้ก่อนทำการสั่งซื้อ

ประเด็นสำคัญ 3 ประการก่อนทำการสอบถามการจัดซื้อ

1. ขั้นแรกให้ยืนยันข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นผ่านข้อมูลเว็บไซต์

2. ทำความเข้าใจว่าการรับรองระดับสากลใดบ้างที่เป็นไปตามข้อกำหนด เช่น UL, CSA และการทดสอบของหน่วยงานบุคคลที่สาม เช่น RoHS, REACH เป็นต้น เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

3. โรงงานมีอุปกรณ์ทดสอบคุณภาพ บันทึกการตรวจสอบย้อนหลังการผลิต และขั้นตอนการควบคุมคุณภาพหรือไม่นั้นล้วนเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ

Good Gi มีประสบการณ์ด้านการผลิตระดับมืออาชีพและส่งออกไปยังหลายประเทศ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและให้ข้อกำหนดที่เหมาะสมที่สุด บริการที่ปรับแต่งได้ และช่องทางการสื่อสารระดับมืออาชีพ